อุปกรณ์แสดงผลลัพธ์ ( Output Device ) เป็นอุปกรณ์สำหรับแสดงผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลของคอมพิวเตอร์ ผลลัพธ์ที่แสดงออกมาจะมีทั้งข้อมูลตัวอักษร, ภาพนิ่ง, ภาพเคลื่อนไหว หรือเสียง เป็นต้น อาจแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทดังนี้
1. อุปกรณ์แสดงผลหน้าจอ
( Display device
)
เป็นอุปกรณ์สำหรับการแสดงผลในรูปแบบกราฟิกและผู้ใช้สามารถเห็นผลลัพธ์ได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น
เมื่อไฟดับหรือปิดการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ลงไปจะไม่สามารถเห็นได้อีก
บางครั้งนิยมเรียกอุปกรณ์ประเภทนี้ว่า soft copy นั่นเอง
เช่น
เทอร์มินอล ( Terminal ) มักพบเห็นได้กับจุดบริการขาย
( POS-Point Of Sale
) ตามห้างสรรพสินค้า
ร้านสะดวกซื้อ
หรือจุดให้บริการลูกค้าเพื่อทำรายการบางประเภท
เช่น
ตู้รายการฝากถอน ATM อัตโนมัติ
จอภาพของเทอร์มินอลจะมีขนาดเล็กกว่าจอภาพที่ใช้กับคอมพิวเตอร์
จอซีอาร์ที ( CRT Monitor ) เป็นอุปกรณ์แสดงผลที่นิยมใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ประเภทพีซี
การทำงานจะอาศัยหลอดแก้วแสดงผลขนาดใหญ่ที่เรียกว่าหลอดรังสีคาโธด
( cathode ray tube
) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกับหลอดภาพของโทรทัศน์
และตัวจอภาพก็มีลักษณะเหมือนกับจอภาพของโทรทัศน์
มีหลายขนาดตั้งแต่ 14,15,16,17,19,20 และ 21 นิ้ว เป็นต้น
(แนวโน้มการใช้งานปัจจุบันจะเลือกใช้จอภาพที่มีขนาดใหญ่ขึ้น
เพื่อช่วยในการทำงานได้ดีกว่าจอภาพขนาดเล็ก
โดยเฉพาะงานที่ต้องใช้พื้นที่สำหรับทำงานบนจอภาพมาก
ๆ
เช่น
การสร้างภาพกราฟิกหรือการออกแบบงาน 3 มิติ
เป็นต้น)
จอแอลซีดี ( LCD Monitor ) เป็นอุปกรณ์แสดงผลอีกแบบหนึ่ง
อาศัยการทำงานของโมเลกุลชนิดพิเศษเรียกว่า “ ผลึกเหลว”หรือ liquid crystal ในการแสดงผล
(LCD = Liquid Crystal
Display ) ซึ่งเมื่อมีสัญญาณไฟฟ้าส่งไปยังแต่ละจุดบนจอ
ผลึกเหลว
ณ
จุดนั้นจะมีการบิดตัวของโมเลกุลเป็นองศาที่แตกต่างกัน
ทำให้แสงที่ส่องจากด้านหลังจอผ่านได้มากน้อยต่างกัน
และเกิดภาพสีต่าง
ๆ
ขึ้น
แต่เดิมนิยมใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์แบบโน๊ตบุ๊ค
ปัจจุบันได้นำมาใช้กับเครื่องพีซีทั่วไปบ้างแล้ว
เนื่องจากมีขนาดบาง
เบาและสะดวกในการเคลื่อนย้ายมากกว่า
อีกทั้งยังไม่เปลืองพื้นที่สำหรับการทำงานด้วย
แต่ปัจจุบันยังมีราคาที่แพงกว่าจอแบบซีอาร์ทีพอสมควร
โปรเจคเตอร์ ( Projector ) นิยมใช้สำหรับการจัดประชุม
สัมมนา
หรือการนำเสนอผลงาน
( presentation
) ที่ต้องการให้ผู้เข้าชมจำนวนมากได้เห็นข้อมูลภาพกราฟิกต่าง
ๆ
ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ทำหน้าที่เป็นเหมือนอุปกรณ์ช่วยขยายภาพขนาดเล็กจากจอภาพธรรมดาให้ไปแสดงผลลัพธ์เป็นภาพขนาดใหญ่ที่บริเวณฉากรับภาพ
2. อุปกรณ์สำหรับพิมพ์งาน
( Print Device )
เป็นอุปกรณ์การแสดงผลที่แสดงออกมาให้อยู่ในรูปแบบข้อมูล
รายงาน
รูปภาพ
หรือแผนที่ซึ่งสามารถจับต้องหรือเก็บรักษาไว้ได้อย่างถาวร
นิยมเรียกอุปกรณ์เหล่านี้ Hard copy อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องสำหรับการพิมพ์งานมีดังนี้
เครื่องพิมพ์แบบดอทเมตริกซ์( Dot matrix Printer ) เป็นเครื่องพิมพ์ที่ใช้กันในองค์กรธุรกิจทั่วไป
เนื่องจากมีคุณสมบัติในการทำงานพิมพ์โดยอาศัยหัวเข็มพิมพ์กระทบลงไปที่ผ้าหมึก( ribbon ) และตัวกระดาษโดยตรงจึงเหมาะสมกับการพิมพ์เอกสารประเภทใบเสร็จรับเงิน
ใบกำกับภาษี
ใบส่งของ
หรือรายการสั่งซื้อที่จำเป็นต้องมีสำเนาเอกสาร(copy ) เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานทางการบัญชี
นิยมเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า
เครื่องพิมพ์แบบกระทบ(impact printer ) แต่มีข้อจำกัดในเรื่องการทำงานที่เป็นสี
นอกจากนี้คุณภาพของงาน
ความคมชัด
และความเร็วยังต่ำกว่าเครื่องพิมพ์แบบอื่นๆ
จึงมีความนิยมใช้ลดลง
ถึงแม้มีราคาไม่สูงนักก็ตาม
เครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์( Laser Printer ) ผลลัพธ์ที่ได้จากการพิมพ์เอกสารด้วยเครื่องพิมพ์แบบดอทเมตริกซ์ซึ่งอาศัยหัวพิมพ์กระทบลงไปในกระดาษเหมือหลักการของเครื่องพิมพ์ดีดนั้น
ทำให้คุณภาพงานพิมพ์ที่ได้ไม่ชัดเจน
จึงนิยมใช้เครื่องพิมพ์ประเภทเลเซอร์เข้ามาแทนเนื่องจากมีความคมชัดมากกว่าเครื่องพิมพ์แบบนี้อาศัยการทำงานของแสงเลเซอร์ฉายลงไปยังหลอดสร้าง( drum ) ภาพที่ได้รับการกระตุ้นของแสง
แล้วฉีดผงหมึกเข้าไปยังบริเวณที่มีประจุอยู่(ซึ่งเป็นหลักการเดียวกับเครื่องถ่ายเอกสารนั่นเอง)
จากนั้นให้กระดาษวิ่งมารับผงหมึก
แล้วไปผ่านความร้อนเพื่อให้ภาพติดแน่น
ข้อดีคือภาพที่ได้มีความละเอียดสูงมาก
และความเร็วก็สูง
แต่มีข้อเสียคือไม่สามารถพิมพ์เอกสารที่เป็นแบบสำเนา
(copy ) เหมือนกับเครื่องพิมพ์แบบดอทเมตริกซ์ได้
นอกจากนี้ปัจจุบันเริ่มมีเครื่องพิมพ์งานสีได้แล้ว
โดยใช้ผงหมึก 4 สีผสมกัน
ซึ่งราคาเครื่องเริ่มลดลงมากแล้ว
แต่ผงหมึกก็ยังแพงอยู่
เครื่องพิมพ์แบบอิงค์เจ็ต ( Ink-jet Printer ) เป็นเครื่องพิมพ์ที่มีการทำงานโดยอาศัยน้ำหมึกพ่นลงไปบนกระดาษตรงจุดที่ต้องการ
และสามารถเลือกใช้ได้ทั้งหมึกสีและขาวดำ
เครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึกอาจมีทั้งแบบราคาถูกที่ใช้งานตามบ้านทั่วไปสำหรับพิมพ์เอกสารที่ต้องการความสวยงาม
เช่น
ภาพถ่าย
โปสการ์ด
ปฏิทิน
หรือพิมพ์บนกระดาษแบบพิเศษแล้วนำไปติดกับเสื้อผ้าหรือแก้วกาแฟ
หรืออาจพบเห็นได้กับเครื่องพิมพ์ในบางรุ่นที่นิยมใช้กันในงานธุรกิจ
เช่น
งานพิมพ์โปสเตอร์หรือภาพสีขนาดใหญ่
แต่ก็มีราคาที่แพงตามไปด้วย
พลอตเตอร์ ( Plotter ) เป็นเครื่องพิมพ์เพื่อแสดงผลลัพธ์อีกประเภทหนึ่ง
มักใช้กับการพิมพ์เอกสารที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่มากและไม่สามารถพิมพ์ด้วยเครื่องขนาดเล็กได้
การทำงานใช้กลไกบังคับปากกาให้ขีดลงบนกระดาษโดยตรง
ส่วนใหญ่เป็นเอกสารที่ต้องการความละเอียดสูง
เช่น
ภาพโฆษณา
แผนที่
แผนผัง
แบบแปลน
เป็นต้น
อย่างไรก็ดีอาจพบเห็นเครื่องพลอตเตอร์นี้ค่อนข้างน้อยในปัจจุบัน
เนื่องจากเครื่องพิมพ์แบบอิงค์เจ็ตได้เข้ามาแทนที่เกือบหมดแล้ว
3. อุปกรณ์ขับเสียง
( Audio Device )
ลำโพง ( Speaker ) ข้อมูลที่เป็นแบบเสียงจะไม่สามารถแสดงผลลัพธ์ไปยังจอภาพของคอมพิวเตอร์ได้ แต่จะอาศัยอุปกรณ์แสดงผลเฉพาะที่เรียกว่า ลำโพง ( speaker ) เพื่อช่วยขับเสียงออก ปัจจุบันมีราคาถูกมากตั้งแต่ร้อยกว่าบาทจนถึงหลักพัน นิยมใช้สำหรับการแสดงผลในรูปของเสียงเพลงหรือเสียงประกอบในภาพยนตร์รวมถึงเสียงที่ได้จากการพูดผ่านไมโครโฟน
ลำโพง ( Speaker ) ข้อมูลที่เป็นแบบเสียงจะไม่สามารถแสดงผลลัพธ์ไปยังจอภาพของคอมพิวเตอร์ได้ แต่จะอาศัยอุปกรณ์แสดงผลเฉพาะที่เรียกว่า ลำโพง ( speaker ) เพื่อช่วยขับเสียงออก ปัจจุบันมีราคาถูกมากตั้งแต่ร้อยกว่าบาทจนถึงหลักพัน นิยมใช้สำหรับการแสดงผลในรูปของเสียงเพลงหรือเสียงประกอบในภาพยนตร์รวมถึงเสียงที่ได้จากการพูดผ่านไมโครโฟน
หูฟัง ( Headphone ) เป็นอุปกรณ์สำหรับรับฟังข้อมูลประเภทเสียงเช่นเดียวกัน
นิยมใช้สำหรับการฟังเสียง
เช่น
ฟังเพลง
หรือเสียงประกอบภาพยนตร์ที่เป็นแบบส่วนตัว
ในบางรุ่นอาจพบได้ทั้งหูฟังและไมโครโฟนอยู่ในตัวเดียวกัน
มีให้เลือกหลายชนิดทั้งแบบที่มีสายเชื่อมต่อและแบบไร้สาย
ราคาของหูฟังอาจจะมีตั้งแต่ราคาไม่กี่ร้อยบาทจนถึงหลักพัน
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพและยี่ห้อของบริษัทผู้ผลิตด้วย
โดยปกติทั้งหูฟังและลำโพงจะต่อสัญญาณเสียงแบบอนาล็อก
( analog ) คือสัญญาณเสียงทั่ว
ๆ
ไปเหมือนในวิทยุหรือโทรทัศน์
จากช่องเสียบสัญญาณที่ซาวด์การ์ดในเครื่องคอมพิวเตอร์
แต่มีลำโพงและหูฟังบางแบบอาจใช้การต่อสัญญาณเสียงในแบบดิจิตอลจากพอร์ต USB ของเครื่องออกมาแทน
แล้วแปลงกลับเป็นเสียงแบบที่เราได้ยินกัน
โดยใช้วงจรภายในตัวเอง
ซึ่งจะลดเสียงรบกวนจากอุปกรณ์อื่น
ๆ
ในคอมพิวเตอร์
แต่หูฟังหรือลำโพงแบบนี้ก็จะมีราคาแพงกว่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น